นาฬิกา

Help Contact PSP Choose Language EnglishJapaneseChineseHome About PSP What's New Gallery Newest Ad Free Analog Animal Animation Count Down & Up Dark Backgrounds Digital Holidays Logo & Custom Seasons Sports Transparent Wallpaper FAQ Rankings Your Ads World Clock Daily Clock Views You Are Here: ClockLink.com | GalleryWant To Get A Custom Clock? Contact info@pspinc.com or 1-800-232-3989 Clock Name: YoshidaSauce001Choose Your Color Select by Timezone Select by City Timezone: ACST: Australia Central Time (GMT + 10:30) AEST: Australia Eastern Time (GMT + 11:00) AHST: Alaska-Hawaii Std Time (GMT - 10:00) AKST: Alaska Time (GMT - 9:00) AST: Atlantic Time (GMT - 4:00) AWST: Australia Western Time (GMT + 08:00) AMST: Amazon Time (GMT - 03:00) BRAST: Brazilian Acre Time (GMT - 05:00) BREST: Brazilian Eastern Time (GMT - 02:00) BRST: Brazilian Time (GMT - 02:00) BRWST: Brazilian Western Time (GMT - 03:00) BST: British Time (GMT + 0:00) CCT: China Coastal Time (GMT + 08:00) CET: Central Europe Time (GMT + 1:00) CLST: Chile Santiago (GMT - 03:00) CST: Central Time (GMT - 6:00) EAT: East Africa Time (GMT + 02:00) EET: Eastern Europe Time (GMT + 2:00) EG-EET: Egypt Cairo Time (GMT + 2:00) EST: Eastern Time (GMT - 5:00) FST: Falkland Islands (GMT - 03:00) GMT - 01:00 GMT - 02:00 GMT - 02:30 GMT - 03:00 GMT - 03:30 GMT - 04:00 GMT - 04:30 GMT - 05:00 GMT - 06:00 GMT - 07:00 GMT - 08:00 GMT - 09:00 GMT - 10:00 GMT - 11:00 GMT - 12:00 GMT + 01:00 GMT + 02:00 GMT + 03:00 GMT + 03:30 GMT + 04:00 GMT + 04:30 GMT + 05:00 GMT + 05:30 GMT + 05:45 GMT + 06:00 GMT + 06:30 GMT + 07:00 GMT + 07:10 GMT + 07:30 GMT + 08:00 GMT + 08:30 GMT + 09:00 GMT + 09:30 GMT + 10:00 GMT + 11:00 GMT + 12:00 GMT + 13:00 GMT + 00:00 GMT00: Greenwich Mean Time (GMT + 0:00) GRST: Greenland Time (GMT - 3:00) EGRST: Greenland Time (GMT - 1:00) ICT: Bangkok Time (GMT + 07:00) IST: Israel Time (GMT + 02:00) JOG: YogYakarta Indonesia Time (GMT + 07:00) JST: Japan Time (GMT + 09:00) MST: Mountain Time (GMT - 7:00) MX-CST: Mexico Central Time (GMT - 6:00) MX-MST: Mexico Mountain Time (GMT - 7:00) MX-PST: Mexico Pacific Time (GMT - 8:00) NZT: New Zealand Time (GMT + 13:00) NST: Newfoundland Time (GMT - 3:30) PST: Pacific Time (GMT - 8:00) R1T: Russia Time 1 (GMT + 2:00) R2T: Russia Moscow Time (GMT + 04:00) SAST: Australian South Standard Time (GMT + 10:30) USZ10: Russia Magadan Time (GMT + 12:00) USZ4: Russia Yekaterinburg Time (GMT + 06:00) USZ5: Russia Omsk Time (GMT + 07:00) USZ6: Russia Krasnoyarsk Time (GMT + 08:00) USZ7: Russia Irkutsk Time (GMT + 09:00) USZ8: Russia Yakutsk Time (GMT + 10:00) USZ9: Russia Vladivostok Time (GMT + 11:00) UYT: Uruguay Standard Time (GMT - 3:00) WAT: Namiba Windhoek Time (GMT + 2:00) WET: Western Europe Time (GMT + 0:00) WST: Western Samoa Time (GMT - 10:00) Country: Afghanistan Albania Algeria American Samoa Andorra Angola Anguilla Antigua and Barbuda Argentina Armenia Aruba Australia Austria Azerbaijan Bahamas Bahrain Bangladesh Barbados Belarus Belgium Belize Benin Bermuda Bhutan Bolivia Bosniaand Herzegovina Botswana Brazil Brunei Darussalam Bulgaria Burkina Faso Burundi Cambodia Cameroon Canada Cape Verde Cayman Islands Central African Republic Chad Chile China Colombia Comoros Congo Congo Democratic Republic Cook Islands Costa Rica Cote DIvoire Croatia Cuba Cyprus Czech Republic Denmark Djibouti Dominica Dominican Ecuador Egypt El Salvador Equatorial Guinea Eritrea Estonia Ethiopia Falkland Islands Fiji Finland France French Guiana Gabon Gambia Georgia Germany Ghana Greece Greenland Grenada Guadeloupe Guam Guatemala Guinea Guinea-Bissau Guyana Haiti Honduras Hong Kong Hungary Iceland India Indonesia Iran Iraq Ireland Israel Italy Jamaica Japan Jordan Kazakhstan Kenya Kiribati Korea Democratic Peoples Republic Of Korea Republic Of Kuwait Kyrgyzstan Lao Peoples Democratic Latvia Lebanon Lesotho Liberia Libyan Arab Jamahiriya Liechtenstein Lithuania Luxembourg Macedonia The Former Madagascar Malawi Malaysia Maldives Mali Malta Marshall Islands Mauritania Mauritius Mexico Micronesia Federated Moldova Republicof Mongolia Montenegro Morocco Mozambique Myanmar Namibia Nepal Netherlands Netherlands Antilles New Zealand Nicaragua Niger Nigeria Niue Northern Mariana Islands Norway Oman Pakistan Palau Palestinian Territory Panama Papua New Guinea Paraguay Peru Philippines Pitcairn Poland Portugal Puerto Rico Qatar Romania Russia Rwanda Saint Kittsand Nevis Saint Lucia Saint Martin Saint Vincentand The Samoa Saudi Arabia Senegal Serbia Seychelles Sierra Leone Singapore Slovakia Slovenia Solomon Islands Somalia South Africa Spain Sri Lanka Sudan Suriname Swaziland Sweden Switzerland Syrian Arab Republic Taiwan Tajikistan Tanzania Thailand Timor-Leste Togo Tokelau Trinidad and Tobago Tunisia Turkey Turkmenistan Tuvalu Uganda Ukraine United Arab Emirates United Kingdom United States Uruguay Uzbekistan Vanuatu Venezuela Viet Nam Wallisand Futuna Yemen Zambia Zimbabwe City:Albany, NYAlbuquerque, NMAnchorage, AKAnnapolis, MDAtlanta, GAAugusta, GAAustin, TXBaltimore, MDBillings,MTBirmingham, ALBismarck, NDBoise, IDBoston, MABridgeport, CTBuffalo, NYBurlington, VTCharleston, SCCharlotte, NCCheyenne, WYChicago, ILCincinnati, OHCleveland, OHColumbia, SCColumbus, OHConcord, OHDallas, TXDenver, CODes Moines, IADetroit, MIDover, OHEl Paso, TXEvansville, INFargo, NDFort Wayne, INGary, INHartford, CTHonolulu, HIHouston, TXIndianapolis, INJackson, MSJacksonville, FLJuneau, AKKansas City, MOKnoxville, TNLansing, MILas Vegas, NVLexington, KYLincoln, NELittle Rock, ARLos Angeles, CALouisville, KYMadison, WIMemphis, TNMiami, FLMilwaukee, WIMinneapolis, MNMontgomery, MNMontpelier, VTNashville, TNNew Orleans, LANew York, NYNewark, NJNome, AKOklahoma City, OKOmaha, NEOrlando, FLPensacola, FLPhiladelphia, PAPhoenix, AZPierre, SDPittsburgh, PAPortland, ORProvidence, RIRaleigh, NCRapid City, SDReno, NVRichmond, VASacramento, CASalem, ORSalt Lake City, UTSan Antonio, TXSan Diego, CASan Francisco, CASeattle, WASioux Falls, SDSpringfield, ILSt. Louis, MOSt. Paul, MNTallahassee, FLTerre Haute, INTopeka, KSTrenton, NJTucson, AZVirginia Beach, VAWashington DCWichita, KSWilmington, DESize: 140 x 52 175 x 65 350 x 130 If the above does not work, please try the following code.How to setup this widget onto your blog Add this widget to your typepad.com blog Pacific Software Publishing, Inc. 1404 140th Place NE, Bellevue, WA 98007 USA Tel: 425.957.0808 Fax: 425.957.1188 Email: info@pspinc.com Home | About PSP | What's New | Gallery | FAQ | Rankings | Your Ads | World Clock Copyright ©2010 PSP Inc. All Rights Reserved.

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

อาหารไทย



อาหารไทย เป็นอาหารที่ประกอบด้วยรสเข้มข้นมีเครื่องปรุงหลายอย่างรสชาติอาหารแต่ละอย่างมีรสเฉพาะตัวการใช้เครื่องปรุงรสต่างๆก็ไม่เหมือนกันผู้ประกอบอาหารไทยต้องศึกษาจากตำราอาหารไทยและผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารไทยให้อร่อยต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ตลอดจนกรรมวิธีในการประกอบอาหารไทยผู้ทำจะต้องพิถีพิถัน ประณีต มีขั้นตอนเพื่อให้อาหารน่ารับประทาน
อาหารไทยขึ้นชื่อได้ว่ามีประวัติมาช้านาน ผู้คนส่วนใหญ่ทั้งในและต่างประเทศต่างนิยมชมชอบในอาหารไทยกันมากมาย โดยเฉพาะชื่อเสียงในด้านความเข้มข้นและจัดจ้านของรสอาหารที่ติดปากติดใจผู้คนมานับศตวรรษ

โดยส่วนใหญ่อาหารไทยจะมีวิธีการประกอบอย่างง่ายๆ และ ใช้เวลาในการทำไม่มากนัก โดยเฉพาะทุกครัวเรือนของคนไทย จะมีส่วนประกอบอาหารติดอยู่ทุกครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นพริก แห้ง กุ้งแห้ง น้ำปลา กะปิ ส้มมะขาม กระเทียม หัวหอม ตลอด จนปลาบ้าง รวมทั้งส่วนประกอบอาหารจำพวกผัก และเนื้อสัตว์ นานาชนิด เพราะมีวิธีนำมาประกอบที่มีด้วยกันหลายรูปแบบไม่ ว่าจะเป็น แกง ต้ม ผัด ยำ รวมทั้งอาหารไทยได้รับอิทธิพลใน การปรุงอาหารรวมทั้งรูปแบบในการรับประทานอาหารตั้งแต่ อดีต อาทิ การนำเครื่องเทศมาใช้ในการประกอบอาหารก็ได้รับ อิทธิพลมาจากเปอร์เชียผ่านอินเดีย หรืออาหารจำพวกผัดก็ได้ รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน เป็นต้น เมนูอาหารไทยที่ขึ้นชื่อลือ ชาหลายชนิดจึงประกอบไปด้วยอาหารมากมายกว่า 255 ชนิด

วิธีปรุงอาหารไทยนั้นมีหลายวิธีดังนี้ การตำ หมายถึง การนำอาหารอย่างหนึ่งอย่างใด หรือหลายๆ อย่างมารวมกัน แล้วตำเข้าด้วยกันบางอย่างอาจตำเพื่อนำไปประกอบอาหารและบางอย่างตำเป็นอาหาร เช่น ปลาป่น กุ้งป่น น้ำพริกสด น้ำพริกแห้ง น้ำพริกเผา พริกกับเกลือ ส้มตำ


การยำ หมายถึง การนำผักต่างๆ เนื้อสัตว์และน้ำปรุงรสมาเคล้าเข้าด้วยกัน จนรสซึมซาบเสมอกัน ยำของไทยมีรสหลักอยู่ 3 รส คือ เปรี้ยว เค็ม หวาน สำหรับน้ำปรุงรสจะราดก่อนเวลารับประทานเล็กน้อยทั้งนี้เพื่อให้ยำมีรสชาติดี ยำผัก เช่น ยำผักกระเฉด ยำถั่วพู ยำเกสรชมพู่ ฯลฯ ยำเนื้อสัตว์ เช่น ยำเนื้อต่างๆ ยำไส้กรอก ยำหมูยอ ฯลฯ





การแกง หมายถึง อาหารน้ำ ซึ่งใช้เครื่องปรุงโขลกละเอียด นำมาละลายกับน้ำ หรือน้ำกะทิ ให้เป็นน้ำแกง มีเนื้อสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งผสมกับผักด้วย เช่นแกงส้ม แกงเผ็ด แกงคั่ว







การหลน หมายถึง การทำอาหารให้สุกด้วยการใช้กะทิข้นๆ มี 3 รส เปรี้ยว เค็ม หวาน ลักษณะน้ำน้อย ข้น รับประทานกับผักสด เพราะเป็นอาหารประเภทเครื่องจิ้ม เช่น หลนเต้าเจี้ยว หลนปลาร้า หลนเต้าหู้ยี้ ฯลฯ




การปิ้ง หมายถึง การทำอาหารให้สุกโดยวางของสิ่งนั้นไว้เหนือไฟไม่สู้แรงนัก การปิ้งต้องปิ้งให้ผิวสุกเกรียมหรือกรอบ เช่น การปิ้งข้าวตัง การปิ้งกล้วย การปิ้งขนมหม้อแกง ( ตามแบบสมัยโบราณปิ้งด้วยเตาถ่าน มิได้ใช้เตาอบเหมือนปัจจุบัน



การย่าง หมายถึง การทำอาหารให้สุก โดยวางอาหารไว้เหนือไฟอ่อนๆ หมั่นกลับไปกลับมาจนข้างในสุกและข้างนอกอ่อนนุ่มหรือแห้งกรอบต้องใช้เวลานานพอสมควร จึงจะได้อาหารที่มีลักษณะรสชาติดี เช่น การย่างปลา ย่างเนื้อสัตว์ต่างๆ






การต้ม หมายถึง การนำอาหารที่ต้องการต้มใส่หม้อพร้อมกับน้ำตั้งไฟให้เดือดจนกว่าจะสุกใช้เวลาตามชนิดของอาหารนั้นๆ เช่น การต้มไข่ ต้มผัก ต้มเนื้อสัตว์ ฯลฯ




การกวน หมายถึง การนำอาหารที่มีลักษณะเป็นของเหลวมารวมกัน ตั้งไฟแรงปานกลางใช้เครื่องมือชนิดใดชนิดหนึ่งคนให้เร็วและแรงจนทั่วกัน คือข้นและเหนียว ใช้มือแตะอาหารไม่ติดมือ เช่น การกวนกาละแม ขนมเปียกปูน ตะโก้ ถั่วกวน ฯลฯ



จี่ หมายถึง การทำอาหารให้สุกด้วยน้ำมัน โดยการทาน้ำมันน้อยๆพอให้ทั่วกระทะแล้วตักอาหารใส่กลับไปกลับมาจนสุกตามต้องการ เช่น การทำขนมแป้งจี่ ขนมบ้าบิ่น เป็นต้น




หลาม หมายถึง การทำอาหารให้สุกในกระบอกไม้ไผ่โดยใช้ไม้ไผ่สดๆ ตัดให้มีข้อติดอยู่ข้างหนึ่ง แล้วบรรจุอาหารที่ต้องการหลามในกระบอกไม้ไผ่นั้น ก่อนหลามต้องใช้กาบมะพร้าวห่อใบตอง อุดปากกระบอกเสียก่อน แล้วนำไปเผาจนสุก เช่น การหลามข้าวหลาม ฯลฯ

ขนมไทย



   ขนมจัดเป็นอาหารที่คู่สำรับกับข้าวไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ โดยใช้คำว่าสำรับกับข้าวคาว-หวาน โดยทั่วไปประชาชนจะทำขนมเฉพาะในงานเลี้ยง นับตั้งแต่การทำบุญเลี้ยงพระ งานมงคลและงานพิธีการ อาหารหวานที่จัดเป็นสำรับจะต้องประกอบด้วย ของหวานอย่างน้อย 5 สิ่ง ซึ่งต้องเลือกให้มีรสชาติ สีสัน ชนิด ตลอดจนลักษณะที่กลมกลืนกัน แต่ละสำรับจะต้องมีผลไม้ 10 ที่ และขนมเป็นน้ำ 1 ที่เสมอ

     ประเทศไทยครั้งยังเป็นสยามประเทศได้ติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ เช่น จีน อินเดีย มาตั้งแต่สมัยสุโขทัยโดยส่งเสริมการขายสินค้าซึ่งกันและกัน ตลอดจนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านอาหารการกินร่วมไปด้วยต่อมาในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ ได้มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ อย่างกว้างขวางไทยได้รับเอาวัฒนธรรมด้านอาหารของชาติต่าง ๆ มาดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น วัตถุดิบที่หาได้ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนการบริโภคนิสัยแบบไทย ๆ จนทำให้คนรุ่นหลัง ๆ แยกไม่ออกว่าอะไรคือขนมที่เป็นไทยแท้ ๆ และอะไร
ดัดแปลงมาจากวัฒนธรรมของชาติอื่น เช่น ขนมที่ใช้ไข่และขนมที่ต้องเข้าเตาอบ ซึ่งเข้ามาในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชจากคุณท้าวทองกีบม้าภรรยาเชื้อชาติญี่ปุ่น สัญชาติโปรตุเกสของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ผู้เป็นกงศุลประจำประเทศไทยในสมัยนั้น ไทยมิใช่เพียงรับทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทองมาเท่านั้น หากยังให้ความสำคัญกับขนมเหล่านี้โดยใช้เป็นขนมมงคลอีกด้วย ส่วนใหญ่ตำรับขนมที่ใส่มักเป็น "ของเทศ" เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง ทองหยอดจากโปรตุเกส มัสกอดจากสกอตต์ ขนมไทย เป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยอย่างหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันดี เพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนประณีตในการทำ ตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการทำ ที่กลมกลืน พิถีพิถัน ในเรื่องรสชาติ สีสัน ความสวยงาม กลิ่นหอม รูปลักษณะชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทาน ขนมแต่ละชนิด ซึ่งยังแตกต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนิดนั้น ๆ

     ขนมไทยที่นิยมทำกันทุก ๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่าง ๆ เนื่องในการทำบุญเลี้ยงพระ ก็คือขนมจากไข่ และมักถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมนั้น ๆ งานศิริมงคลต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส ทำบุญวันเกิด หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะมีการเลี้ยงพระกับแขกที่มาในงาน เพื่อเป็นศิริมงคลของงานขนมก็จะมีฝอยทอง เพื่อหวังให้อยู่ด้วยกัน ยืดยาวมีอายุยืน ขนมชั้น ก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เฟื่องฟู
ขนมทองเอกก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้น
  

ผลไม้ไทย

ผลไม้ไทยได้ประโยชน์
    ของดีของเมืองไทยนั้นมีอยู่มากมาย โดยเฉพาะผลไม้ไทย ที่ให้ทั้งประโยชน์ และคุณค่าทางโภชนาการต่อร่างกาย ในผลไม้แต่ละชนิดต่างมีรสชาติ กลิ่น และรูปร่างที่แตกต่างกัน ซึ่งผลไม้แต่ละชนิดก็จะใช้สารอาหาร แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน วิตามิน แร่ธาตุ น้ำ และเส้นใยอาหาร เป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย หากต้องการรับประโยชน์จากผลไม้อย่างเต็มที่ ... ควรรับประทานผลไม้สด และไม่ทิ้งไว้นาน หลังการปอก หรือหั่น หากเป็ยผลไม้ที่ผ่านกรรมวิธีถนอมอาหาร หรือนำมาเป็นขนมอบ จะทำให้ปริมาณสารอาหารลดลงได้ และถ้าจะให้ดี ต้องทานผลไม้ตามฤดูกาล เพราะผลไม้ในฤดูนั้นๆ จะออกดอกออกผลตามธรรมชาติ สามารถหาซื้อได้ง่าย และมีราคาถูก





        ผลไม้ ... พลังบำบัดความสดชื่นจากธรรมชาติ การรับประทานผลไม้เป็นประจำ จะทำให้รู้สึกสดชื่น และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว มีผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลอย่างเห็นได้ชัด ผลไม้ ... ยังเปี่ยมไปด้วยสรรคุณทรงคุณค่า ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรค และกระตุ้นการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย รวมไปถึงการเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย

    นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของผลไม้ไทย ... ได้ประโยชน์ เห็นมั๊ยคะว่า คนไทยนั้นมีของดีอยู่มากมาย ขึ้นอยู่กับว่า คุณจะนำของดีอย่าง ... ผลไม้ไทยเหล่านี้ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่างร่างกายหรือเปล่า ? คุณสมบัติของผลไม้ดีๆ ที่นอกเหนือจากรสชาติที่อร่อยนี้ หาได้ไม่ยาก ถ้าอย่างนั้น เรามาทำความรู้จักกับผลไม้ไทย ... ได้ประโยชน์กันดีกว่า


... กล้วย ...

    กล้วย ... เป็นผลไม้ที่สามารถหากินกันได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นกล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยหักมุก หรือกล้วยไข่ นอกจากนี้จะมีรสชาติหอมหวานแล้ว ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส คาร์โบไฮเดรตสูง และมีเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยออกมาว่า กินกล้วยเป็นประจำแค่สัปดาห์ละ 2 ผล จะช่วยลดความดันเลือดลงไปได้ถึง 10% เพราะเอนไซม์ในกล้วยจะไปช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้คล่องตัวขึ้น และเมื่อไหร่ที่รู้สึกเครียด กล้วยก็ยังช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายได้ เพราะในกล้วยมีโปแตสเซียม ถือได้ว่า กล้วยสามารถเป็นยารักษาโรคเบื้องต้น ที่มีราคาถูก และหาซื้อได้ง่ายตลอดปี
    นอกจากนี้ กล้วยสุกงอม ... ยังเป็นอาหารชั้นดี สำหรับเด็กทารก ตั้งแต่อายุ 3 เดือน ถึง 2 ขวบ เป็นผลไม้ที่ช่วยให้เด็กทารเจริญเติบโต ได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ในผู้ใหญ่ ก็ยังช่วยแก้โรคท้องผูก ท้องร่วง อาหารไม่ย่อย เพราะมีสารพวกเปคติน (pectin) อยู่มาก เป็นการช่วยเพิ่มกากอาหาร และมีเมือกลื่นช่วยให้ถ่ายสะดวก เพียงแค่กินกล้วยสุกวันละ 2-4 ผล คุณประโยชน์จากกล้วย ก็จะทำให้มีสุขภาพดีได้
    เกร็ดเล็ก ... น่ารู้ สำหรับสาววัยแรกรุ่น ... กล้วยไข่ยังมีความพิเศษในเรื่อง ของสารต้านอนุมูลอิสระ ที่รู้จักกันเป็นอย่างดี คือ เบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย สามารถเป็นผู้ช่วยในการดูแลผิวพรรณได้อีกด้วย
    ฤดูการน่าซื้อ : กล้วย ... หาซื้อได้ง่ายตลอดปี แต่ถ้าเป็นกล้วยไข่ จะให้ผลผลิตมาก ในเดือน สิงหาคม - พฤศจิกายน


... ขนุน ...
    ขนุน ... จัดเป็นผลไม้ไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ในรสชาติ และมีกลิ่นอันหอมหวาน อีกทั้งผลขนุนยังมีสรรพคุณ ในการรักษาโรคต่างๆ มากมาย อาทิ
    เนื้อของผลขนุน ช่วยย่อยอาหาร ช่วยดูดซึมแก้พิษ จากการดื่มนม และยังช่วยแก้กระหายได้เป็นอย่างดี
    ใบของต้นขนุนตากแห้ง สามารถใช้ห้ามเลือด และเป็นยาสมานแผลได้
    ยางของขนุนมีสรรพคุณในการแก้ปวด ลดอาการอักเสบ บวม สามารถรักษาอาการต่อมน้ำเหลืองอักเสบ และรักษาแผลเปื่อยเรื้อรังให้หายได้
    เกร็ดเล็ก ... น่ารู้ สำหรับสตรีหลังคลอด ... เม็ดขนุนมีสรรพคุณในการช่วยเพิ่มน้ำหนักได้
    ฤดูการน่าซื้อ : ขนุน ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนมกราคม - พฤษภาคม



... เงาะ ...
    เงาะ ... เป็นผลไม้ที่มีรูปลักษณ์แปลก และโดดเด่น มีลักษณะผลค่อนข้างกลมรี สีเหลือง - อดง หรือแดงปนเหลือง มีขนอยู่โดยรอบ เนื้อภายในผลมีลักษณะอ่อนนุ่ม สีขาวใส หรืออมเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เงาะอุดมไปด้วยวิตามินซี แคลเซียม และฟอสฟอรัส ในเนื้อเงาะมีสรรพคุณในการรักษาอาการท้องร่วง ได้เป็นอย่างดี
    เปลือกของผลเงาะยังสามารถช่วยแก้อักเสบในช่องปาก โดยการนำเปลือกของผลเงาะต้มสุกมาต้มกินกับน้ำ จะมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และรักษาอาการอักเสบภายในช่องปากได้
    ข้อควรระวัง เม็ดของเงาะมีพิษ หากกินเข้าไปแล้วจะทำให้คลื่นไส้อาเจียน
    ฤดูการน่าซื้อ : เงาะ ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนพฤษภาคม + กันยายน



... แตงโม ...

    แตงโม ... เป็นผลไม้ที่สมาคมโรคหัวใจในอเมริกายอมรับว่า แตงโมมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะมีน้ำอยู่ถึงร้อยละ 92 ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ มีปริมาณ Glutathione มหาศาล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มี Lycopene มาก และสามารถป้องกันโรคมะเร็งที่เกิดจากอนุมูลอิสระได้ นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณช่วยลดความร้อนภายในร่างกาย ช่วยป้องกันและรักษาอาการของโรคไข้หวัด หรือเจ็บคอ ช่วยลดความดันโลหิต และยังช่วยในการซับน้ำปัสสาวะได้ดี
    เนื้อของแตงโม นอกจากจะมีรสหวานแล้ว ยังมีสรรพคุณในการเป็นยาบำรุงร่างกาย ช่วยในการย่อย แถมยังทำให้เจริญอาหาร เพิ่มความสดชื่นให้กับชีวิต และขจัดสารพิษออกจากร่างกายได้อย่างหมดจด
    เกร็ดเล็ก ... น่ารู้ สำหรับผู้ป่วยโรคไตอักเสบเรื้อรัง ... สามารถนำเปลือกแตงโมมาต้ม และเครี่ยวจนข้น เพื่อนำมาบรเทาอาการโรคได้
    ฤดูการน่าซื้อ : แตงโม ... หาซื้อได้ง่ายตลอดปี แต่ถ้าจะให้ดี แตงโมจะให้ผลผลิตมากในเดือนตุลาคม - มีนาคม



... ทุเรียน ...

    ทุเรียน ... เป็นผลไม้เมืองร้อยที่เก่าแก่ชนิดหนึ่ง จัดได้ว่าเป็นผลไม้ที่เชิดหน้าชูตาของคนไทย เพราะมีเอกลักษณ์โดดเด่นสูง ทั้งในรูปร่าง กลิ่น และรสชาติ นับได้ว่าทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคุณภาพดีที่สุด และเป็นที่นิยมทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ นอกจากทุเรียนจะมีรสชาติที่อร่อยแล้ว นื้อของทุเรียนยังให้คุณค่าทางสารอาหาร อย่างแคลเซียม ฟอสฟอรัส และมีวิตามินสูง ีอีกทั้งยังช่วยเพิ่มน้ำหนักตัวได้เป็นอย่างดี
    เนื้อของแตงโม นอกจากจะมีรสหวานแล้ว ยังมีสรรพคุณในการเป็นยาบำรุงร่างกาย ช่วยในการย่อย แถมยังทำให้เจริญอาหาร เพิ่มความสดชื่นให้กับชีวิต และขจัดสารพิษออกจากร่างกายได้อย่างหมดจด
    ข้อควรระวัง สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน และโรคอ้วน ... ไม่ควรกินทุเรียนมากเกินไป เพราะทุเรียนจัดว่าเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง เป็นอันดับต้นๆ ทำให้แคลอรี่ในร่างกายสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
    ฤดูการน่าซื้อ : ทุเรียน ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม




... น้อยหน่า ...

    น้อยหน่า ... เป็นผลไม้ที่มีเนื้อสีขาว มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด ทั้งวิตามิน เกลือแร่ แคลเซียม และฟอสฟอรัส นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณในการเป็นยาระบายอ่อนๆ และช่วยทำให้ชุ่มคออีกด้วย
    ข้อควรระวัง เมล็ดของน้อยหน่ามีคม หากกลืนลงคอ อาจทำให้ปลายแปลมของเมล็ดบาดคอได้
    ฤดูการน่าซื้อ : น้อยหน่า ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนมิถุนายน - กันยายน


... ฝรั่ง ...

    ฝรั่ง ... เป็นผลไม้ที่มีวิตามินอยู่มาก และยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ ไฟเบอร์ที่มีมากในเมล็ดของฝรั่ง และจากที่ฝรั่งเป็นผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูง (มากกว่าส้มถึง 5 เท่า) จึงมีบทบาทในการบำรุงผิวพรรณของผู้หญิง ด้วยการสร้างคอลลาเจน และสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวพรรณชุ่มชื่น และเต่งตึง ไม่แก่ก่อนวัย อีกทั้งยังเป็นยารักษาโรคได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเนื้อของผลฝรั่ง ใบ และราก ของต้นฝรั่งนั้น ต่างก็มีสรรพคุณในการใช้เป็นยารักษาโรคได้ เช่น โรคท้องร่วง โรคบิด โรคลำไส้อักเสบ ช่วยในการห้ามเลือด และสมานแผล หรือแม้แต่การเสริมภูมิต้านทานโรคได้ เป็นต้น
    เกร็ดเล็ก ... น่ารู้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นปาก สามารถนำใบฝรั่งสดมาเคี้ยว เพื่อช่วยระงับกลิ่นได้เป็นอย่างดี
    ฤดูการน่าซื้อ : ฝรั่ง ... หาซื้อได้ง่ายตลอดปี



... มะพร้าว ...
    มะพร้าว ... ผลไม้ที่เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงบรรยากาศชายทะเล ด้วยกลิ่นหอมอ่อน และรสชาติหวานของน้ำมะพร้าวที่ มีฤทธิ์ในการลดความร้อน ดับกระหาย ลดอาการอ่อนเพลีย และใช้ในการขับพยาธิชนิดต่างๆ ได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นพยาธิใบไม้ พยาธิตัวกลม พยาธิตัวตืด เป็นต้น และในเนื้อของมะพร้าวยังมีคุณสมบัติในการบำรุงร่างกาย ช่วยแก้อาการอ่อนเพลียได้อีกด้วย
    เกร็ดเล็ก ... น่ารู้ สำหรับผู้มีอาการของโรคหัวใจ ควรดื่มน้ำมะพร้าวเป็นประจำ จะช่วยป้องกันอาการของโรคหัวใจล้มเหลว
    ฤดูการน่าซื้อ : มะพร้าว ... หาซื้อได้ง่ายตลอดปี



... มะม่วง ...
    มะม่วง ... เป็นผลไม้ยอดนิยมของบรรดาสาวๆ เป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติอร่อย สามารถทานได้ทั้งผลดิบ ผลสุก กวน ดอง และแช่อิ่ม อีกทั้งยังมีหลากหลายรสชาติให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงพันธุ์เขียวเสวย แรด หนังกลางวัน น้ำดอกไม้ อกร่อง พิมเสน แก้ว เจ้าคุณทิพย์ สายฝน หรือแม้แต่พันธุ์ทองคำ ล้วนมีสรรพคุณทางยาด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นยาแก้ไอ ละลายเสมหะ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ดับกระหาย ขับปัสสาวะ ช่วยรักษาโรคความจำเสื่อม ช่วยให้เลือดแะลประจำเดือนของสตรีเป็นปกติ และในมะม่วงยังมีเอนไซม์ พาเพอิน ที่ช่วยย่อยสลายโปรตีน ที่คั่งค้างในระบบย่อยอาหาร ยิ่งถ้ากินมะม่วงสดเป็นประจำแล้ว ก็ยังจะช่วยให้อาการไอ หอบ มีเสมหะ หรือมีเลือดออกตามไรฟัน บรรเทาอาการลงได้
    นอกจากนี้ มะม่วงยังมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็ง รวมไปถึงการกระตุ้นให้ร่างกาย ต่อสู้กับเนื้อร้าย ด้วยสารสำคัญที่มีชื่อว่า เบต้าแคโรทีน ที่สามารถป้องกัน และยังยั้งการเป็นมะเร็งในระยะต่างๆ แต่เบต้าแคโรทีนก็ไม่สามารถต้านมะเร็ง ในคนที่สูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องได้
    ข้อควรระวัง สำหรับผู้ที่เป็นโรคไต ... ไม่ควรกินมะม่วงมากเกินไปนัก เพราะจะทำให้อาการของโรคกำเริบมากขึ้น
    ฤดูการน่าซื้อ : มะม่วง ... หาซื้อได้ง่ายตลอดปี แต่ถ้าจะให้ดี มะม่วงจะให้ผลผลิตมารกในเดือนมีนาคม - มิถุนายน



... มะละกอ ...
    มะละกอ ... ได้ชื่อว่า เป็นผลไม้ที่ช่วยเพิ่มความงามของบรรดาสาวๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารครบถ้วน ประกอบไปด้วย วิตามินเอ บี บี 1 บี 2 แคลเซียม และที่สำคัญคือ สารเบต้าแคโรทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงและทำให้ผิวพรรณดียิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยชะลอความแก่ และริ้วรอยก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ มะละกอยังมีสรรพคุณ ในการช่วยบำรุงอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย ช่วยแก้กระหายน้ำ บำรุงโลหิต บำรุงระบบประสาท และระบบสายตาได้
    เกร็ดเล็ก ... น่ารู้ สำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูก มะละกอยังมีสารอาหารที่ช่วยในการทำงาน ของระบบขับถ่ายเป็นอย่างดี
    ฤดูการน่าซื้อ : มะละกอ ... หาซื้อได้ง่ายตลอด



... มังคุด ...
   มังคุด ... สรรพคุณทางยา ช่วยให้มีการระบายอย่างอ่อน ในกรณีที่เกิดอาการท้องผูกได้
    ข้อควรระวัง หากกินมังคุดมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดอาการท้องเดินได้
    ฤดูการน่าซื้อ : มังคุด ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนพฤษภาคม - กันยายน


... ลองกอง ...

    ลองกอง ... เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี และฟอสฟอรัส มีสรรพคุณในการลดความร้อน ที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย เมื่อกินเป็นประจำ จะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นไข้ตัวร้อน และช่วยไม่ให้เกิดอาการร้อนในขึ้นในปากได้อีกด้วย
    ฤดูการน่าซื้อ : ลองกอง ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนกรกฎาคม - ตุลาคม



... ละมุด ...

    ละมุด ... ผลไม้ที่มีรสหวาน มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ชนิดต่างๆ รวมไปถึงการมีแคลเซียมสูง จึงมีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ผู้ที่กินละมุดเป็นประจำ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่เสมอ
    ฤดูการน่าซื้อ : ละมุด ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนกันยายน - ธันวาคม


... ลางสาด ...

    ลางสาด ... จัดเป็นผลไม้ประเภทเดียวกับลองกอง ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี และฟอสฟอรัส มีสรรพคุณช่วยให้ชุ่มคอ ละลายเสมหะ และช่วยบรรเทาอาการไอได้เป็นอย่างดี
    ฤดูการน่าซื้อ : ลางสาด ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนกรกฎาคม - ตุลาคม



... ลำไย ...
    ลำไย ... ผลไม้ไทยที่กำลังโด่งดังมากในต่างประเทศ ด้วยเมล็ดโตและอร่อย ลำไยมีสารอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลกลูโคส ซูโคส และวิตามินชนิดต่างๆ โดยเนื้อลำไยมีรสหวาน และมีสรรพคุณแก้ผอมแห้งแรงน้อย นอนไม่หลับ ขี้ลืม ใจสั่น บำรุงร่างกาย บำรุงประสาท ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยบำรุงกำลังของสตรี ภายหลังจากการคลอดบุตร
    ส่วนลำไยแห้งนั้น จะมีสรรพคุณในการบำรุงหัวใจ ระบบประสาท ช่วยย่อยอาหาร ช่วยบำรุงกำลัง และบำรุงโลหิต
    ข้อควรระวัง สำหรับผู้ที่มีอาการท้องเสีย อาหารไม่ย่อย ท้องอืดแน่น ฝ้าบนลิ้นสีขาว และหนา หรือเป็นหวัด ไม่ควรกินลำไย (สด) มากจนเกินไป เพราะลำไยมีคุณสมบัติร้อน จะทำให้เกิดอาการเจ็บคอ และเป็นร้อนในภายในปากได้
    ฤดูการน่าซื้อ : ลำไย ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนมิถุนายน - สิงหาคม



... ลิ้นจี่ ...
    ลิ้นจี่ ... ผลไม้ที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต และโปรตีน มีสรรพคุณเป็นยาช่วยย่อยอาหาร บำรุงอวัยวะภายในต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นม้าม หรือระบบประสาท นอกจากนี้ ลิ้นจี่ยังช่วยในการบรรเทาอาการ กระหายน้ำได้ และ หากนำเนื้อลิ้นจี่ตากแห้งมาต้มกินเป็นประจำ ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวด อันเนื่องมาจากโรคไส้เลื่อน หรือลูกอัณฑะบวม และยังช่วยรักษาโรคโลหิตจาง ได้อีกด้วย
    เกร็ดเล็ก ... น่ารู้ สำหรับผู้มีอาการของท้องร่วงเรื้อรัง ... ให้นำเนื้อลิ้นจี่มาต้มรวมกับเนื้อพุทรา แล้วนำมากินกับน้ำ จะช่วยบรรเทาอาการท้องร่วงเรื้อรังได้ได้เป็นอย่างดี
    ฤดูการน่าซื้อ : ลิ้นจี่ ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนเมษายน - มิถุนายน



... ส้ม ...
    ส้ม ... ประดุจดั่งยารักษาโรคที่แสนหวาน เป็นแหล่งรวมสารอาหาร อันได้แก่ เกลือแร่ โพแทสเซียม กรดโฟลิก เส้นใยธรรมชาติ และวิตามินต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นส้มเขียวหวาน ส้มโอ ส้มเช้ง และส้มอื่นๆ เมื่อกินส้มเป็นประจำ จะช่วยให้มีสุขภาพดี ระบบขับถ่ายทำงานคล่องตัว ป้องกันการเกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ป้องกันโรคเกี่ยวกับตา เช่น ต้อกระจก ตาบอดกลางคืน เพราะส้มอุดมไปด้วยคุณค่าจากวิตามินซี ช่วยกระตุ้นการแลกเปลี่ยนเซลล์ ให้ผิวหน้านวลผ่องสดใส เสริมให้กระดูกแข็งแรง ช่วยให้บาดแผลหายเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการกระหายน้ำ ช่วยป้องกันการเป็นหวัด ลดคอเลสเตอรอลในเลือด ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากโรคหัวใจเร็วขึ้น
    ในส่วนต่างๆ ของส้มโอ ล้วนแต่มีสรรพคุณในการเป็นยาได้แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เนื้อ เปลือก และเมล็ดของส้มโอ จะมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร ช่วยในการย่อยอาหาร ลดอาการบวมของผิวหนัง และยังช่วยลดปริมาณของเสมหะ ที่มีในลำคออีกด้วย
    เกร็ดเล็ก ... น่ารู้ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ... ให้กินส้มโดยไม่คายกาก จะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกวิธีหนึ่ง เพราะจะทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็วขึ้น และสำหรับสตรีมีครรภ์ นำเอาเปลือกของส้มโอมาสับให้ละเอียด แล้วต้มกับน้ำดื่ม แก้อาการแพ้ท้อง หรือคลื่นไส้อาเจียนได้
    ฤดูการน่าซื้อ : ส้ม ... หาซื้อได้ตลอดปี แต่ถ้าเป็นส้มโอ ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนสิงหาคม - พฤศจิกายน



... สับปะรด ...

    สับปะรด ... เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง มีปริมาณของวิตามิน เกลือแร่ เส้นใยไฟเบอร์ ที่มีอยู่มากมายในสับปะรด และยังอุดมไปด้วยสารอาหารเสริมความงาม เช่น เบต้าแคโรทีน กรดฟอสฟอริค วิตามินซี โพแตสเซียม และแมกนีเซียม แถมด้วยโบรมาลีน ที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อในลำไส้
    สับปะรดยังมีคุณค่าทางยาสูง มีเอนไซม์ย่อยโปรตีน มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหารจำพวกเนื้อ ลดอาการแน่นท้อง เสริมสร้างการดูดซึม ลดความร้อนของร่างกาย ช่วยแก้กระหาย และสามารถรักษาอาการหวัด และโรคไซนัสอักเสบ นอกจากนี้ สับปะรดยังมีสารที่ช่วยในการรักษาบาดแผล บรรเทาอาการพุพองในแผลที่เกิดจากไฟไหม้ ได้เป็นอย่างดี
    นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาวิจัย พบว่า การกินสับปะรดเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคไตอักเสบ ความดันโลหิตสูง และโรคหลอดลมอักเสบอีกด้วย
    เกร็ดเล็ก ... น่ารู้ สำหรับผู้มีอาการบวมน้ำ สับปะรดจะช่วยบรรเทาอาการบวมน้ำ ของร่างกาย และยังช่วยในการขับปัสสาวะ
    ฤดูการน่าซื้อ : สับปะรด ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนเมษายน - มิถุนายน และธันวาคม - มกราคม



... องุ่น ...    องุ่น ... ผลไม้ที่มีผลเล็ก แต่มีคุณสมบัติไม่เล็กเหมือนตัว เพราะในผลองุ่นมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายคนเราหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลกลูโคส วิตามินเอ วิตามินซี เหล็ก แคลเซียม และสารอนินทรีย์ในชนิดต่างๆ อีกจำนวนมาก เมื่อกินองุ่นอย่างเป็นประจำ จะทำให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีอวัยวะภายในที่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นตับ ไต หัวใจ แม้แต่ระบบขับถ่าย ที่สามารถรักษาการย่อยอาหารให้เป็นปกติ ช่วยขับปัสสาวะ และระงับความเจ็บปวด อีกทั้งยังช่วยป้องกันความเสี่ยง ในการเป็นโรคดีซ่าน โรคตับอักเสบ และการปวดศีรษะได้เป็นอย่างดี และยังรวมไปถึงการมีสมอง และความจำดี และช่วยแก้กระหายได้อีกด้วย
สำหรับเหล้าไวน์ที่ทำมาจากผลองุ่น ยังมีสรรพคุณในการป้องกันโรคหัวใจ ลดการสะสมของคอเลสเตอรอล และยับยั้งการจับตัวเป็นลิ่มของเลือด
  เกร็ดเล็ก ... น่ารู้ สำหรับสตรีมีครรภ์ ... องุ่นสดสามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้
   ฤดูการน่าซื้อ : องุ่น ... จะให้ผลผลิตมากในเดือนกันยายน - เมษายน